Egg Benedict (ไข่เบเนดิกท์)

Print

ไข่เบเนดิกท์ ประกอบไปด้วยส่วนประกอบใหญ่ๆ 3 ส่วน ได้แก่
1. มัฟฟินแบบอังกฤษ (English Muffin) เป็นรูปแบบหนึ่งของขนมปังที่มีส่วนผสมของยีสต์จะมีลักษณะกลมแบน เวลานำมาประกอบเป็นไข่เบเนดิกท์ จะผ่าครึ่งก่อนแล้ววางไข่ลงไปข้างบน สามารถใช้ขนมปังทดแทนได้
2. ไข่ทอดน้ำ (Poached Egg) ไข่ที่ถูกปรุงให้สุกในน้ำ
3. ซอสฮอล์แลนด์เดส (Hollandaise Sauce) ซอสที่เป็นการรวมตัวของเนยกับน้ำส้มสายชูหรือมะนาวโดยการใช้ไข่แดงเป็นตัวเชื่อมให้เข้ากัน มีขั้นตอนและเทคนิคเฉพาะตัวในการทำ เป็นซอสที่เสิร์ฟอุ่นๆ
นอกจากส่วนประกอบหลักๆ ทั้ง 3 ส่วน หลายๆ ครั้งที่ไข่เบเนดิกท์จะถูกเสิร์ฟกับเบคอนหรือแฮมก็แล้วแต่ความชอบ สูตรที่นำมาฝาก พลใช้ขนมปังแทนมัฟฟิน เพื่อความง่ายและสะดวกในการเตรียม

ที่มา

สูตรโดย : พล ตัณฑเสถียร

ส่วนประกอบ


  • ไข่ทอดน้ำ (Poached Egg)

  • ไข่ไก่3-4 ฟอง

  • น้ำส้มสายชู1 ช้อนโต๊ะ

  • ซอสฮอล์แลนด์เดส (Hollandaise Sauce)

  • น้ำส้มสายชู1 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำ2 ช้อนโต๊ะ

  • ไข่แดง2 ฟอง

  • เกลือปรุงรส

  • เนย (ละลาย)120 กรัม

  • มะนาวเลมอน (น้ำ)1 ช้อนโต๊ะ

  • พริกไทยดำ¼ ช้อนชา

  • ปาปริก้าปรุงรส+ตบแต่ง

วิธีทำ


1.ต้มน้ำในหม้อขนาดกลางที่มีความลึกพอสมควร ใส่น้ำประมาณ 2/3 ของหม้อ ใส่น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะจากนั้นตอกไข่ไก่ใส่ในถ้วยเล็กๆ เพื่อความสะดวกในการใส่ไข่ไก่ลงในน้ำ

2.พอน้ำเดือดก็ให้ลดความร้อนลงเพื่อให้น้ำร้อนแต่นิ่งไม่เดือดพล่าน เพราะถ้าน้ำเดือดเกินไปแรงดันจะทำให้ไข่ขาวกระจายไปทั่วและไข่แดงด้านในจะสุก

3.ใช้ไม้พายหรือตะกร้อ คนน้ำในหม้อให้มีลักษณะเหมือนน้ำวน แล้วจึงค่อยเทไข่ไก่ลงตรงกลาง เวลาที่น้ำหมุน ไข่ขาวจะรวมตัวกันตรงกลาง ไม่กระจาย

4.ใช้ทัพพีที่มีรู ตะล่อมไข่ไก่ให้มีลักษณะรวมตัวกัน ทิ้งไว้จนไข่ขาวอยู่ตัวดี แต่ไข่แดงข้างในยังเหลวอยู่ ประมาณ 2 นาที

5.พอไข่ขาวภายนอกอยู่ตัวก็ใช้ทัพพีที่มีรู ตักไข่ใส่ชามน้ำเย็นเพื่อเป็นการหยุดความร้อน สามารถใช้กรรไกรตัดแต่งไข่ขาวส่วนเกินได้เล็กน้อย พักไว้

6.ทำซอสฮอล์แลนด์เดส โดยเอาน้ำส้มสายชูใส่หม้อใบเล็ก ใส่พริกไทยดำลงไป นำไปตั้งไฟจนน้ำส้มสายชูลดลงเหลือประมาณแค่ 1 ช้อนชา (เป็นการดึงรสจากพริกไทยดำให้มาอยู่ในน้ำส้มสายชู)

7.ใส่น้ำลงไปเพื่อเป็นการเพิ่มจำนวนของเหลวกลับเข้าไป แล้วกรองใส่ไข่แดงที่แยกเตรียมไว้ในชามผสมอาหารสแตนเลส

8.ต้มน้ำในหม้อที่มีปากขนาดเล็กกว่าชามผสมอาหารที่ใส่ไข่แดงไว้ ระดับของน้ำต้องไม่สูงมากไป เมื่อวางชามส่วนผสมไข่แดงลงไป น้ำต้องห้ามสัมผัสก้นหม้อ มิฉะนั้นจะทำให้ของที่อยู่ในชามร้อนเกินแล้วละลายเนยด้วยไมโครเวฟ ให้เนยมีอุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส

9.นำชามส่วนผสมไข่แดงขึ้นไปวางบนหม้อต้มน้ำ ลดความร้อนอย่าให้เดือดพล่าน ตีส่วนผสมไข่แดงไปเรื่อยๆ บนน้ำร้อน จนส่วนผสมมีสีเหลืองอ่อนและหนาขึ้น ถ้าน้ำในหม้อร้อนเกินสามารถยกหม้อออกจากความร้อนได้เป็นครั้งคราว ในขั้นตอนนี้ เวลาที่ใช้ขึ้นอยู่กับจำนวนของไข่แดงด้วย ถ้าไข่แดงยิ่งมากจะใช้เวลายิ่งนาน เมื่อส่วนผสมมีลักษณะหนาแบบที่เรียกว่า Ribbon Stage คือเมื่อยกตะกร้อขึ้น และวาดส่วนผสมลงบนผิว ตัวส่วนผสมจะมีลักษณะเป็นเส้นและค่อยๆ จมลงอย่างช้าๆ ก็แปลว่าใช้ได้แล้ว

10.ยกส่วนผสมไข่แดงออกจากความร้อน ค่อยๆใส่เนย (อุณหภูมิ 55-60 องศาเซลเซียส) ลงไปทีละนิด ตีให้เข้ากันดีถ้าใส่เร็วไป เนยจะรวมตัวกับซอสยาก พอใส่หมด ก็ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำมะนาว และปาปริก้า เล็กน้อย ชิมจนได้รสที่ถูกใจ (เนยกับตัวซอสควรมีอุณหภูมิใกล้กัน ถ้าเนยร้อนเกิน จะทำให้ไข่แดงสุก ถ้าเย็นไป เนยก็จะแข็งตัว รวมกับซอสยาก)


หมายเหตุ: Poached Egg 2 ฟอง ใช้ซอสที่คนกับส่วนประกอบไข่แดง 1 ฟอง


แสดงความคิดเห็น


Leave a Reply